ทำไมคนไทย ชอบดูซีรีย์เกาหลี

จากบทความเรื่อง ย้อนรอยซีรีส์ เกาหลีจากจอแก้วสู่ Application คงทำให้ผู้อ่านหลายท่านคิดถึงซีรีส์เกาหลีที่เคยดูหรือที่กำลังดูในปัจจุบัน แน่นอนว่าเสน่ห์ของความเป็นเกาหลีสามารถดึงดูดให้หลงรักและติดตามได้ตั้งแต่เริ่มเรื่องถึงตอนสุดท้าย บางครั้งก็ทำให้เราติดอยู่ในภวังค์ของเรื่องที่ดูไปตลอดเดือนรู้ตัวอีกทีก็ตัดสินใจซื้อตั๋วเครื่องบินเพื่อมาตามรอยสถานที่ถ่ายทำต่าง ๆ ของซีรีส์เรื่องนั้นไปเสียแล้ว

แล้วทำไมคนไทยถึง ชอบดูซีรีย์เกาหลี ? จากงานวิจัยของ ผศ.ดร.นพปฎล อินทร์จันทร์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัย ศรีนครินทรวิโรฒ: ภาพยนตร์ซีรีส์เกาหลี: กรณีศึกษาความคลั่งไคล้วัฒนธรรมเกาหลีในสังคมไทย ได้ให้คำตอบ ดังนี้

 

ชอบดูซีรีย์เกาหลี เพราะ การวางโครงเรื่อง

 

คนดูส่วนใหญ่ ชอบดูซีรีย์เกาหลี  ชอบเทคนิคการวางโครงเรื่อง (Plot) โดยเฉพาะซีรีย์ที่เกี่ยวกับความรัก เนื้อหาไม่ซับซ้อน มีปัญหาหลักๆ เพียงข้อเดียว ลักษณะการดำเนินเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง ค่อยๆ วางทีละน้อยจนมาถึงจุดพีคของเรื่อง ซึ่งละครเกาหลีส่วนใหญ่มักจะปลุกเร้าผู้ชมให้เกิดอารมณ์รัก สงสาร โกรธ เกลียด ผ่านการกระทำของตัวละครและโครงเรื่อง

การนำเสนอเรื่องราวผ่านละครเกาหลีมักสะท้อนความเหลื่อมล้ำทางสังคม การละเมิดสิทธิมนุษยชน การแบ่งชั้นทางสังคม สิทธิสตรี อุดมคติเกินจริง และความรักระหว่างชนชั้นมีลูกเล่นที่เกี่ยวข้องกับโครงเรื่องที่ผูกโยงกับความลับของเรื่อง

 

องค์ประกอบของซีรีส์

 

 

 

สิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือฉาก แสง สีที่สวยงามในละครเกาหลีที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเป็นธรรมชาติ ความสมจริงของเรื่องราวที่ละครเกาหลีส่วนใหญ่ถ่ายทำโดยใช้ฉากภายในมากกว่าฉากภายนอก เช่น บ้าน ที่ทำงาน โรงเรียน เป็นต้น ทำให้ผู้ชมได้เห็นสังคมเกาหลีและสนใจประเทศเกาหลีมากขึ้น เห็นได้ชัดจากเรื่อง แดจังกึม ราชินีแห่งวังหลวง ฉากพระราชวังถูกใช้มากที่สุดเพื่อนำเสนอชีวิตในวังของชาวเกาหลีโบราณ สอดแทรกความศิวิไลซ์เหนือประเทศอื่นๆ และที่สำคัญคือการนำเสนออัจฉริยภาพด้านอาหารและการแพทย์

หรือจะเป็นเรื่อง รักวุ่นวายของเจ้าชายกาแฟ ที่ฉากนำเสนอภาพลักษณ์ของชีวิตการเป็นอยู่ของคนเกาหลีในเมืองหลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำเสนอฉากร้านกาแฟเป็นสิ่งที่ผู้สร้างได้จงใจนำเสนอภาพลักษณ์ของร้านกาแฟและร้านอาหารเกาหลีสู่สายตาผู้ชมทั่วโลกและแน่นอนว่าได้สร้างปรากฏการณ์นิยมกาแฟอย่างแพร่หลายจนไปถึงธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อเยี่ยมชมร้านกาแฟที่ปรากฎในซีรี่ส์เรื่องนี้ด้วย

ที่ขาดไม่ได้เลยคือเรื่องของเครื่องแต่งกาย เพื่อเป็นการแสดงภาพลักษณ์ของผู้นำแฟชั่นของเกาหลีผ่านตัวละคร ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบสี หรือเครื่องประดับ ต่างมีความโดดเด่นและงดงามจึงทำเสื้อผ้าที่ทำให้ผู้ชมเกิดความประทับใจและเกิดกระแสนิยมขึ้นทั่วโลก

โดยสรุปผู้เขียนมองว่าเพราะซีรีส์เกาหลีมีทั้งความเหมือนและความต่างอย่างลงตัวกับสังคมไทยอย่างที่นี่เป็นเอเชีย เมื่อดูแล้วก็เข้าใจที่มาและสาเหตุที่ตัวละครทำสิ่งนี้ได้ไม่ยาก ที่แตกต่างคือนำเสนอรูปแบบละครที่ไม่เคยมีในไทยมาก่อน ทั้งโครงเรื่อง ฉาก แสง สี และเครื่องแต่งกายของนักแสดง ล้วนแสดงให้เห็นถึงความทันสมัยในการนำเสนอซีรีส์ใหม่ ๆ สร้างความรู้สึกอยากติดตาม ไม่ซ้ำซาก หรือเดาพล็อตเหมือนละครไทย

โดยส่วนตัวผู้เขียนชอบซีรี่ย์เกาหลี เนื่องจากการถ่ายทอดวัฒนธรรมที่กลมกลืนและทำให้เราสนใจใคร่รู้เกี่ยวกับประเทศเกาหลี จนต้องศึกษาเพิ่มเติมใส่ใจในรายละเอียดของฉาก แสง สี อีกอย่างที่ชอบที่สุดคือเพลงประกอบซีรีส์ซึ่งมีประมาณ 10 เพลงต่อเรื่องเหมือนแต่งประกอบซีรีส์เลยก็ว่าได้ เวลา.

 

ซีรีย์ที่จะทำให้คุณรู้คุณค่าของการมีชีวิต

 

 

Hi Bye, Mama! เป็นอีกหนึ่งซีรีส์ที่กำลังได้รับความนิยมในขณะนี้ โดยเป็นซีรีส์ Netflix Original Series ที่ออกอากาศทางช่อง tvN อีกด้วย ซีรีส์เล่าเรื่องราวของผีสาวที่ได้รับโอกาสคืนชีวิตเป็นเวลา 49 วัน กลับไปหาลูกสาวและสามีที่แต่งงานแล้วของเธอ ใหม่

นอกจากนี้ ซีรีส์เรื่องนี้ยังเป็นการกลับมาแสดงครั้งแรกในรอบ 5 ปีของนักแสดงนำหญิงคิมแทฮีหลังจากที่เธอพักงาน ประกบอีคยูฮยองที่บอกเล่าเรื่องราวความรัก สามีและภรรยาของ Sayuri (Kim Tae-hee) และ Cho Han-kwa (Lee Kyu-hyung) ศัลยแพทย์ทรวงอก แต่แล้ววันหนึ่งเขาต้องสูญเสียคนรักจากอุบัติเหตุ เหลือเพียงลูกชายของเขาที่ยังมีชีวิตอยู่ โช ฮันกวาเสียใจมากและเกือบจะไปอยู่กับภรรยา แต่เขามีหน้าที่เลี้ยงลูกให้เติบใหญ่ จนกว่าคุณจะล้มเลิกความคิดนั้นและแต่งงานใหม่ ซึ่งดูเหมือนว่าจะตัดใจจากอดีตภรรยาได้ แต่ก็ไปต่อไม่ได้เมื่อซายูริกลับมามีชีวิตอีกครั้ง และมีความยุ่งเหยิง

จุดเด่นของเรื่องคือเรื่องราวของซายูริหลังจากชุบชีวิตคนตาย ซึ่งถ้าดู EP แรกอาจจะคิดว่าการกลับมามีชีวิตต้องเป็นสิ่งที่ดีแน่ๆ ต้องกลับมาเจอแฟนเจอครอบครัว แต่พอดูหลายๆ EP กลับพบว่ามันเป็นบทลงโทษจากสวรรค์มากกว่า เพราะซายูริต้องกลับไปที่เดิม เช่นเดียวกับตอนที่เขายังมีชีวิตอยู่ แม้ว่าสามีของเขาจะแต่งงานใหม่ ซายูริมีเวลาเพียง 49 วันในการหาทางออกให้กับตัวเอง บวกกับแก๊งผีที่ตามมาช่วยเธอ

 

การจากลาที่เศร้าที่สุด คือการจากลาที่ไร้คำร่ำลา

 

ชอบดูซีรีย์เกาหลี นอกจากเรื่องราวของตัวเอกแล้ว ยังมีเรื่องราวของคนรอบข้างที่จะทำให้เราได้เห็นมุมมอง เช่น เพื่อนสนิทที่ต้องเสียเพื่อนไปก่อนวัยอันควร หรือ ครอบครัวที่ยังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ว่า สามีจะมองว่า เพื่อเดินหน้าต่อไปโดยเริ่มต้นชีวิตใหม่กับภรรยาใหม่ แต่ความเสียใจยังคงอยู่และไม่สามารถรักษาให้หายได้ สังเกตได้จากความกลัวจนไม่กล้าเข้ารับการผ่าตัดช่วยเหลือผู้ป่วยอีก หรือครอบครัวฝั่งซายูริที่ดูเหมือนพยายามตัดขาดกับลูกเขยแต่ก็ตัดไม่ลง

ในส่วนของนักแสดงถือว่าทำได้ดีกับการคัมแบ็คครั้งแรกในรอบ 5 ปีของคิมแทฮีที่สามารถจับใจผู้ชมได้ และพระเอกลีคยูฮยองก็แสดงได้สมบทบาท เห็นหน้าครั้งแรกอาจจะดูนิ่งๆ แต่ก็สามารถเล่นบทตลกได้ รวมถึงแก๊งผีที่ตามจีบนางเอกก็สร้างความหมั่นไส้และเห็นใจได้ในเวลาเดียวกัน

Hi Bye, Mama! เป็นหนึ่งในซีรีส์ที่ทำได้ดีตามสูตรซีรีส์ดราม่า ถ้าคนมีครอบครัวหรือมีลูกน่าจะชอบและสนใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นเรื่องราวของความรัก การสูญเสียครอบครัว ฉากที่เรียกน้ำตาได้เล่นเอากระดาษทิชชู่ม้วนหมด และไม่ใช่ฉากดราม่าและสะเทือนใจทั้งหมด ยังมีความฮาและความน่ารักของพระเอก-นางเอก รวมถึงก๊วนผีป่วนเป็นสีสันของซีรีส์ โดยรวมแล้ว ซีรีส์จะแบ่งเรื่องราวระหว่างนางเอกและตัวเอก และพระเอกนางเอกกับแก๊งผีป่วนก๊วนได้ดี และมีการผสมผสานระหว่างโรแมนติก คอมเมดี้ และดราม่าได้อย่างลงตัว ผู้ชมจะสัมผัสได้ทั้งเศร้า ตลก และน้ำตาซึมใน EP เดียวกัน

 

บทความแนะนำ